“แค่ใจก็เพียงพอ ตามรอยพ่อที่พอเพียง” ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 จาก NISSAN กับ เครือข่ายร่วมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเต็ง จ.เพชรบุรี

NISSAN สนับสนุนชุมชนตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองในจังหวัดเพชรบุรีผ่านโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง”

จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานและชีวิตประจำวันให้แก่ นาย โกศล แสงทอง ประธานเครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง จังหวัดเพชรบุรี

นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรีเพื่อพบกับ นายโกศล แสงทอง บุคคลผู้น้อมนำปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และการพึ่งพาตนเองมาใช้ในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการนำของเหลือใช้มาสร้างมูลค่าให้เกิดประโยชน์

ภายใต้โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” นิสสันได้ร่วมแบ่งปันภูมิปัญญา ปรัชญา คำสอน และพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ส่งผลในทางที่ดีต่อชีวิตประจำวัน และการทำงานของนายโกศล หนึ่งในบุคคลต้นแบบของโครงการฯ

“เราควรเปิดใจรับและค้นหาสิ่งที่ตัวเองไม่คุ้นเคย และผมเชื่อว่าการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชนจะนำมาซึ่งความสำเร็จ ความสามัคคี และพลังของชุมชน นั่นคือเหตุผลที่ผมเข้ามาริเริ่มเครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง” นายโกศล แสงทอง ประธานเครือข่ายฯ กล่าว

“ผมสนับสนุนทุกคนในชุมชนให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปันความสามารถและทักษะต่างๆให้แก่กัน เพื่อขับเคลื่อนแนวทางเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ดำเนินต่อไป ผมภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พาคนในชุมชนให้ช่วยกันเสริมสร้าง ดูแล และช่วยให้ชุมชนเป็นที่ๆน่าอยู่มากขึ้น” นายโกศลกล่าวเสริม

ณ ที่อำเภอป่าเด็ง จังหวัดเพชรบุรี แห่งนี้ประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 10 หมู่บ้าน ที่ผ่านมาหมู่บ้านเหล่านี้ไม่มีไฟฟ้าหรือสัญญาณโทรศัพท์ คนในหมู่บ้านจึงรวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า “เครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง” เพื่อช่วยกันพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้นด้วยการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก

ด้านนายโกศล แสงทอง ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ป่าเด็งจากความต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย นับตั้งแต่วันแรกที่ได้มาช่วยคนในชุมชนนี้ และจนถึงวันนี้นายโกศล ได้กลายมาเป็นประธานเครือข่ายและเป็นผู้ที่ผลักดันความสำเร็จไปสู่เครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง

นายโกศลสนับสนุนให้ชุมชนได้พึ่งพาและช่วยเหลือตนเองตามคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยการนำของที่ไม่ใช้แล้ว เช่นแผงโซล่าเซลเก่ามาซ่อมแซมให้ใช้ใหม่ได้ ทำให้สามารถมีไฟฟ้าไว้ใช้ในชุมชนจากแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาด รวมถึงการนำมูลสัตว์และขยะอินทรีย์ต่างๆ มาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพบรรจุเก็บในถุงบอลลูนที่ประยุกต์ขึ้นเองเพื่อใช้ในการทำประกอบอาหาร ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านในชุมชนมีพลังงานไฟฟ้า และ ก๊าชชีวภาพสำหรับหุงต้มใช้โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว

นายโกศลเชื่อมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่จะนำพาไปสู่ความสุขที่แท้จริงซึ่งแบ่งได้เป็นสามรูปแบบคือ ความสุขจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ความสุขจากการค้นหาและสร้างสรรค์ และความสุขจากการแบ่งปัน

นายรัฐการ จูตะเสน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “เศรษฐกิจพอเพียงเป็นหนึ่งในปรัชญาที่สำคัญที่สุดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงวางแนวทางไว้ให้ชาวไทยเป็นเส้นทางนำไปสู่ความสุข นิสสันสนับสนุนแนวคิดของการดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายและอยู่อย่างพอเพียง สิ่งนี้สะท้อนผ่านรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเรา และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีราคาที่คุ้มค่า โดยใช้เทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้”

การเดินทางตลอดสองวันนี้เริ่มที่กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี โดยรถยนต์ นิสสัน เอ็กซ์เทรล และรถกระบะ นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018 นิสสัน เอ็กซ์เทรล มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบหลักๆ คือ เครื่องยนต์เบนซินที่มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งขนาดความจุ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาดความจุ 2.0 ลิตรที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยให้อนาคตสะอาดขึ้น นอกจากนี้ เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ยังมาพร้อมกับระบบเพียวไดร์ฟไฮบริด (Pure Drive Hybrid) และคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch Control) ที่ทำให้มีพละกำลังและอัตราเร่งเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์แบบเดียวกันกว่าถึงร้อยละ 20

โดยผู้ร่วมกิจกรรมยังได้สัมผัสกับความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารของ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ด้วยเบาะนั่งที่กว้างขวางของ เอ็กซ์เทรล ที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน และยังโดดเด่นด้วยที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ โดยในรุ่น 2.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร จะเป็นที่นั่งแบบ 3 แถว หรือ 5+2 ที่นั่ง ขณะที่รุ่น ไฮบริด 2.0 ลิตร จะเป็นแบบ 2 แถว นอกจากนี้เอ็กซ์เทรล ยังมาพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัล-โซน ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา และรวมถึงระบบเครื่องเสียงพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อรองรับการเล่น CD, MP3, AUX, USB และระบบนิสสัน คอนเน็กต์ (Nissan Connect) ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน    แอปพลิเคชัน (Application) ที่ล้ำสมัย มี พาโนรามิค ซันรูฟ (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ ที่ทำให้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม

ขณะที่รถยนต์ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้คือ กระบะพันธุ์แกร่ง นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018 ที่ให้สมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้นจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร มีกำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า ด้วยระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor หรือ AVM) และถุงลมนิรภัย 7 จุดที่สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร อีกด้วย

เมื่อเดินทางมาถึงเครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อบ้านป่าเด็ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านได้พบกับคุณโกศลเพื่อเรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนพร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ผู้ร่วมกิจกรรมยังช่วยในการเชื่อมต่อแผงวงจรเพื่อมอบให้ชาวบ้านในชุมชนไปใช้ ขณะอยู่ในที่แห่งนี้พวกเขายังร่วมทำอาหารเหมือนกับชาวบ้านในท้องถิ่นโดยการใช้ก๊าซชีวภาพ และมอบกล่องเครื่องมือช่างให้กับชุมชนเป็นที่ระลึกในช่วงท้าย

นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) มีความภาคภูมิใจในการเดินทางครั้งนี้ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้พบกับบุคคลที่น่าชื่นชมอย่างนายโกศล ผู้น้อมนำปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงาน

โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2560 และจะดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคม 2561 เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อสานต่อคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทั่วประเทศ

ขอขอบคุณภาพประกอบอันสวยงามในกิจกรรมครั้งนี้จากกล้องโกโปร โดยบริษัท เมนทาแกรม จำกัด และบริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงตลอดการเดินทาง

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์  นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ  เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่   สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง   มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์  รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน  รถกระบะ และรถตู้

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด

นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน โดยมี นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ในปี พ.ศ. 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันต่อปี

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขนส่งเพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง nissan-global.comFacebook, Instagram, Twitter และ Linkedin พร้อมรับชมวีดีโอล่าสุดได้ที่ YouTube