Mercedes-Benz เดินหน้าธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กร จับมือ 6 โรงแรมห้าดาวชั้นนำของเมืองไทย มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ความหรูหรา ด้วยการส่งมอบรถลิมูซีน เมอร์เซเดส–เบนซ์ เอส–คลาส พร้อมกันกว่า 40 คัน
บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “The Taste of Legacy” ย้ำภาพลักษณ์ที่สุดแห่งความหรูหราเหนือระดับ ด้วยการร่วมเป็นพันธมิตรกับ 6 โรงแรมชั้นนำระดับห้าดาวของเมืองไทย ในการทำธุรกิจรถยนต์สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมส่งมอบ Mercedes-Benz S 350 d Exclusive จำนวนกว่า 40 คัน เพื่อเป็นรถลิมูซีนในการให้บริการแก่ลูกค้าคนสำคัญ
มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจรถยนต์สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรมากว่า 20 ปีแล้ว โดยมีกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม ภายใต้บริการที่มีชื่อว่า ‘
เมอร์เซเดส–เบนซ์ คอร์ปอเรท โซลูชั่นส’ (Mercedes-Benz Corporate Solutions) บริษัทฯ ได้นำเสนอบริการอันเป็นเลิศทั้งในด้านรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ ทีมบริการหลังการขาย รวมถึงโปรแกรมที่สนับสนุนการทำธุรกิจของลูกค้าแต่ละองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดทางธุรกิจ”
“การเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ไม่ใช่แค่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความหรูหราที่สะท้อนผ่านวัสดุคุณภาพ ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยของเมอร์เซเดส–เบนซ์ ซึ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกต่างเลือกเป็นพันธมิตรธุรกิจรถยนต์กับเมอร์เซเดส–เบนซ์ สำหรับในประเทศไทย เราถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์ลิมูซีนสำหรับโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาว โดยรถยนต์ตระกูลเอส–คลาส ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ สมฐานะยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก”
“สำหรับงาน ‘The Taste of Legacy’ ในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างบริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการรถลิมูซีนสำหรับโรงแรมชั้นนำรายใหญ่ของเมืองไทย อย่าง เบลล์ ทรานสพอร์ท และโรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาวของเมืองไทยทั้ง 6 แห่ง อย่าง โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โรงแรม สุโขทัยกรุงเทพ และโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ที่พร้อมส่งมอบที่สุดแห่งความหรูหราเหนือระดับ ผ่านขบวนยนตรกรรมหรู Mercedes-Benz S 350 d Exclusive กว่า 40 คัน เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของตน” มร.โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม
มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า “การส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ เอส–คลาสในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งมอบครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ด้วยมูลค่ารถยนต์รวมกว่า 300 ล้านบาท โดยหลากหลายโรงแรมพันธมิตรของเรา นับเป็นลูกค้าธุรกิจกลุ่มองค์กรยุคแรกเริ่มที่เลือกใช้รถยนต์เมอร์เซเดส–เบนซ์ เพื่อดูแลลูกค้าคนสำคัญมายาวนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่รุ่น Mercedes-Benz S 320 CDI จนเปลี่ยนมาใช้ Mercedes-Benz S 350 d Exclusive ซึ่งสิ่งนี้สามารถสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของแต่ละโรงแรมที่มีต่อรถยนต์ เมอร์เซเดส–เบนซ์ในฐานะเครื่องหมายที่แสดงถึงมาตรฐานและคุณภาพขั้นสูงที่ทางโรงแรมตั้งใจจะมอบให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบัน เอส–คลาส นับเป็นรถลิมูซีนระดับพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่พร้อมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สัมผัส”
“ธุรกิจรถยนต์สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรของเมอร์เซเดส–เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ชื่อ Mercedes-Benz Corporate Solutions ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สนับสนุนการทำธุรกิจของหน่วยงาน องค์กร บริษัท และผู้บริหาร ด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่กลุ่มคอมแพกต์ คาร์ (Compact Car) ลักชัวรี่ คาร์ (Contemporary Luxury) เอสยูวี (SUV) หรือแม้กระทั่งลิมูซีนหรูอย่างเอส–คลาส และเมอร์เซเดส–มายบัค เอส–คลาส ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการทำธุรกิจของลูกค้าแต่ละองค์กรได้อย่างเหมาะสม ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่หลากหลาย ลงตัวกับทุกรูปแบบธุรกิจ ผ่านคำแนะนำของ ‘ที่ปรึกษากลุ่มลูกค้าองค์กร’ ที่พร้อมบริการและตอบโจทย์ทางธุรกิจของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการบริการหลังการขายที่ดีที่สุด ทั้งการรับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่เสียค่าบริการและไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกโปรแกรมหรือประกันซ่อมบำรุงเพิ่มเติมได้ เพื่อการคุ้มครองที่มากขึ้น และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ‘Star Assist’ จากศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ”
รถยนต์ Mercedes-Benz S 350 d Exclusive ถือเป็นรถยนต์ที่พร้อมจะมอบนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย จากห้องโดยสารที่มาพร้อมกับระบบ ENERGIZING Comfort Control เทคโนโลยีที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารผ่อนคลาย พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมถึงที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังฝั่งซ้ายเพิ่มขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดียอันล้ำสมัย ด้วยฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ และ Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง รวมถึงดีไซน์ภายนอกอันโดดเด่น และสมรรถนะอันดีเยี่ยม
มร.จอห์น บลองโค ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ กล่าวว่า “คาเพลลา กรุงทพ เป็นรีสอร์ทหรูแห่งใหม่ริมแม่น้ำแห่งมหานคร ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ซึ่งก่อนที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ เราได้เตรียมความพร้อมในหลากหลายด้าน เพื่อมอบสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ที่มาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ ซึ่งการเลือกรถยนต์ เอส–คลาสมาเป็นรถลิมูซีนของโรงแรมเรา ก็นับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะสะท้อนความเหนือระดับของโรงแรม คาเพลลา กรุงเทพ และมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมลงให้แก่แขกผู้มาเข้าพักทุกท่าน”
มร.เทนน์ เจ คูลแมน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ กล่าวว่า“โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภายใต้อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (IHG) มุ่งมั่นที่จะส่งมอบการบริการอย่างไร้ที่ติแบบ True Hospitality ให้แก่ลูกค้าทุกท่านอยู่เสมอ เราเชื่อมั่นที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการต้อนรับและมีคุณค่าไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก ผ่านการให้บริการอย่างจริงใจและ มีคุณภาพสูงสุดซึ่งการที่เราเลือกใช้รถยนต์เอส–คลาสมาเพื่อเป็นรถลิมูซีนของโรงแรมนั้น นับว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ ในการมอบบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้าของเรา และช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับตลอดการเดินทาง”
มร.อเล็กซ์ พิเชล ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ กล่าวว่า “โรงแรม สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เป็นการผสมผสานระหว่างแบรนด์เคมปินสกี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความชำนาญการ ความปราณีต และพิถีพิถันในแบบยุโรปเข้ากับมาตรฐานการบริการที่ดีเลิศและศิลปะวัฒนธรรมอันอ่อนช้อยในแบบไทย พร้อมกับความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่แขกที่เข้าพัก ทั้งที่เป็นนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว การที่เราเลือกนำรถยนต์เอส–คลาส มาเพื่อใช้เป็นรถยนต์ลิมูซีนของโรงแรมนั้น สามารถสะท้อนทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ที่สอดคล้องกับหลักการของโรงแรมได้เป็นอย่างดี”
มร.มาซายะ ฮาเซเบะ รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวว่า “โรงแรมของเราดำเนินงานภายใต้ปรัชญาที่เรียบง่าย อย่าง ‘Best A.C.S.’ คือ ความมุ่งมั่นที่จะมีห้องพักที่ดีที่สุด (Best Accommodation) การบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ดีที่สุด (Best Cuisine) และ การบริการที่ดีที่สุด (Best Service) ซึ่งเราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถรักษามาตรฐานระดับสูงไว้ได้เป็นอย่างดีตลอดมา ซึ่งในวันนี้ ทางโรงแรมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เมอร์เซเดส–เบนซ์ ประเทศไทยอีกครั้ง ในการเลือกใช้รถยนต์เอส–คลาสมาเป็นรถลิมูซีนของโรงแรมเรา เนื่องจากเราได้ตระหนักแล้วว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถพัฒนายานยนต์ที่มอบความประทับใจสูงสุดให้กับแขกของเราเสมอ”
มร.อเล็กซานเดอร์ ชิลลิงเกอร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป โรงแรมสุโขทัยกรุงเทพ กล่าวว่า “สุโขทัย แปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข ซึ่งนอกจากความหมายที่ลึกซึ้งแล้ว ยังรวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ จิตวิญญาณที่งดงาม ความสุขสงบและความเป็นส่วนตัว ที่นำมาซึ่งความสุขอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปรัชญาพื้นฐานที่เรายึดถือเพื่อให้แน่ใจว่าทุกการบริการที่ลูกค้าได้รับนั้นดีที่สุด ด้วยวิสัยทัศน์ที่คล้ายคลึงกันระหว่างเราและเมอร์เซเดส–เบนซ์ที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทำให้เรามั่นใจว่าแขกคนสำคัญของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ ตลอดการเดินทางด้วยรถยนต์เอส–คลาสอย่างแน่นอน”
คุณทีน่า ลิว ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ กล่าวว่า “ทางโรงแรมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ เราและเมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินงานในปีพ.ศ. 2555 เนื่องด้วยวิสัยทัศน์ที่ตรงกันในการที่จะให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสุดยอดนวัตกรรมและการบริการที่ดีที่สุด อย่างเช่นรถยนต์รุ่น S 350 d Exclusive ที่นอกจากจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีแล้ว รถคันนี้ยังมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องดีไซน์ และความสะดวกสบาย ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาให้บริการแก่ลูกค้าของทางโรงแรมดับเบิ้ลยู ในฐานะที่เป็นดีไซน์ลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์โฮเต็ลอีกด้วย”
คุณหัสดินทร์ เอี่ยมชีรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบลล์ ทรานสพอร์ท กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับการมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารทุกท่าน นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 ซึ่งเราได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากลูกค้าทั้งกลุ่มโรงแรม หน่วยงานภาครัฐ หรือบริษัทเอกชน ในการเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ลิมูซีนเพื่อช่วยคัดเลือกรถยนต์ที่มาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี โดยเมอร์เซเดส–เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับหนึ่งที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในการนำไปส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กร ซึ่งตลอดการทำงานร่วมกันกว่าทศวรรษที่ผ่านมา เมอร์เซเดส–เบนซ์ สามารถตอบโจทย์ใน การดำเนินธุรกิจของผมได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งมอบบริการอันดีเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่าและเหมาะสม”