Platino Motomobile เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X7 เป็นครั้งแรก ในงาน BMW WORLD OF LUXURY 2019
บีเอ็มดับเบิลยู พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม ผู้จัดจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู อย่างเป็นทางการ เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X7 , THE 7 และ THE 8 พร้อมเปิดประสบการณ์ให้ได้สัมผัสและทดลองขับเป็นครั้งแรก ในงาน BMW WORLD OF LUXURY 2019 ที่ชั้น 1 เซ็นทรัล ศาลายา ตั้งแต่วันที่ 13-16 มิ.ย. 62 สำหรับภายในงานจะได้สัมผัสกับเหล่าขุนพลแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียมของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการค้นพบโลกแห่งความเหนือระดับและพบกับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ ในงาน BMW World of Luxury
ไฮไลท์จากบีเอ็มดับเบิลยู
บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม ศักยภาพความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม ด้วยการยกทัพยนตรกรรมสุดหรู นำขบวนโดยบีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ ใหญ่ที่สุดในตระกูล X ตำนานบทใหม่ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ยนตรกรรมที่ผสานขุมพลังความสปอร์ตปราดเปรียวเหนือระดับและความหรูหราล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ และบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport รุ่นแฟลกชิปที่ได้นำหลักการของคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 มาใช้เป็นส่วนประกอบของตัวถัง ช่วยลดน้ำหนักรวมของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 ได้สูงสุดถึง 130 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
นางสาวสุภารัตน์ อภิกุลประภา กรรมการบริหาร บริษัท พลาติโน โมบาย จำกัด เผยว่า “ในการจัด งาน BMW WORLD OF LUXURY 2019 ครั้งนี้ถือได้ว่าพลาติโน มอเตอร์ นครปฐม เป็นดีลเลอร์แรกที่ได้ มอบหมายจากทางบีเอ็ม ไทยแลนด์ ให้จัดงานใหญ่สำหรับลูกค้าในเขตปริมณฑลและภาคตะวันตกที่จะได้สัมผัสและใกล้ชิดกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่หลากหลายรุ่นพร้อมพบกับข้อเสนอที่พิเศษภายในงาน”
พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม ถือได้ว่าเป็นดีลเลอร์ใหม่ล่าสุดของทางบีเอ็มดับเบิลยูใช้งบประมาณลงทุนราว 300 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโชว์รูมรถใหม่ ( New Car ) และ กลุ่มรถยนต์ผู้บริหาร ( Executive Car ) พื้นที่ภายในโชว์รูมสามารถโชว์รถได้ถึง 7 คัน ศูนย์บริการเครื่องยนต์และศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ซึ่งแต่เดิมพลาติโน มอเตอร์ นครปฐม เคยมีประสบการณ์นานกว่า 20 ปี ในด้านศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถัง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี สำหรับพื้นที่ลูกค้าที่พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม ดูแลเป็นโซนทางภาคตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d
ราคาจำหน่าย: 8,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
นิยามใหม่แห่งความหรูหราในเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (SAV) อย่างบีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ พร้อมที่จะมาทำสร้างตำนานบทใหม่อันสุดเร้าใจให้แฟน ๆ ชาวไทยด้วยการผสานความล้ำสมัยและความคล่องตัวในดีไซน์ที่แปลกใหม่เข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยมิติรถที่กว้างขวางโอ่อ่าที่สุดในตระกูล X พร้อมด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และรูปลักษณ์ที่สะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ กระจกบานกว้าง ความสูงของรถ ไปจนถึงการถ่ายทอดพลังผ่านทรวดทรงหลังคาที่ลาดยาว ตอบโจทย์ความหรูหรา ควบคู่ไปกับเอกลักษณ์ที่พร้อมเปิดมิติใหม่แห่งความโฉบเฉี่ยวในทุกเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo ที่ส่งพละกำลังสูงสุด 294 กิโลวัตต์ / 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d สร้างความประทับใจได้อย่างโดดเด่นด้วยการส่งพละกำลังจากชุดเทอร์โบแบบหลายสเตจ ซึ่งประกอบด้วยชุดอัดอากาศแบบความดันต่ำ 2 ตัว และแบบความดันสูง 2 ตัว ทำให้เรียกพละกำลังได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่สะดุด โดยทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ รวมทั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ทุกสภาพถนน สมกับสมรรถนะที่แข็งแกร่งของ SAV คันนี้อย่างแท้จริง ขณะที่เทคโนโลยีแชสซีใหม่ล่าสุดพร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ยังช่วยมอบการควบคุมที่เฉียบคมและปราดเปรียวยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่มาพร้อมกับท่อไอเสียในสไตล์ M Sport เสริมจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตด้วยเสียงดุดัน สร้างความเร้าใจในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามในแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู
แม้ว่าบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหญ่และโอ่อ่า แต่เส้นสายการออกแบบนั้น ถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่ปราดเปรียวและคล่องตัว เน้นองค์ประกอบของความประณีตและความเรียบง่าย กระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ รวมไปถึงระบบไฟหน้า BMW Laserlight สร้างเอกลักษณ์ให้รถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ลาย Y-spoke สวยสะดุดตาจากทุกมุม ขับเน้นให้บีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่ ดูทรงพลังและภูมิฐานมากขึ้น
ห้องโดยสารภายในของบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่นั้น สะท้อนนิยามของความหรูหราสง่างามที่มาบรรจบกับการออกแบบเหนือกาลเวลาและความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบให้รองรับเบาะนั่งแบบ 3 แถว จุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 คน โดยทุกที่นั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้ามอบความสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะที่นั่งบุด้วยหนังแท้ Merino เนื้อละเอียดจาก BMW Individual หรูหราขึ้นไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งห้องโดยสารด้วยลายไม้สีดำเงา ให้บรรยากาศในสไตล์เรียบหรู ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีปริมาตรความจุ 326 ลิตร และเพิ่มได้สูงสุดถึง 750 ลิตร หรือ 2,120 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวันและผู้ที่รักการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ความหรูหราในห้องโดยสารนั้นยังเสริมด้วยวัสดุตกแต่งผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ พร้อมชุดไฟ Ambient light ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เพดานกระจกใสพาโนรามาแบบ Sky Lounge ที่เพิ่มความโปร่งอย่างโอ่อ่าเหนือระดับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน พร้อมมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยต่างๆ เช่น ระบบ Parking Assistant Plus ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant รวมถึงระบบบันเทิงและเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด เช่น ระบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้เป็นส่วนตัวมากกว่าที่เคย
อีกหนึ่งข้อพิสูจน์ของวิสัยทัศน์จากบีเอ็มดับเบิลยูในการก้าวสู่อนาคตแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ คือ ฟังก์ชั่น Reversing Assistant ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ขับขี่ขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ในเซกเมนต์ โดยฟังก์ชั่น Reversing Assistant นี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยออกจากบริเวณที่มีพื้นที่แคบ เช่น อาคารจอดรถ ทางเลี้ยวเข้า หรือทางตัน ได้อย่างง่ายดายแม้จะมีมุมมองที่จำกัด ซึ่งฟังก์ชั่นดังกล่าวจะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 50 เมตร ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเริ่มใช้งานโดยกดปุ่ม Reversing Assistant ขณะจอดนิ่งที่เกียร์ P หลังจากนั้น รถยนต์จะถอยหลังอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับเข้าไปล่าสุด ผู้ขับขี่จะมีหน้าที่เพียงแค่แตะเบรกหรือคันเร่ง โดยความเร็วในการถอยอัตโนมัติจะอยู่ที่ความเร็วสูงสุด 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งระบบจะสามารถจดจำองศาการเลี้ยวภายในระยะ 50 เมตรสุดท้ายไว้ได้เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแม้กระทั่งถอยออกจากที่จอดรถได้แม้จะจอดทิ้งไว้ข้ามคืนหรือเป็นระยะเวลาหลายวัน บีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่ยังมาพร้อมกับระบบ BMW IntelligentPersonal Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวสุดชาญฉลาดที่พร้อมยกระดับสุนทรียภาพในการขับขี่ทุกเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่มีสีภายนอกให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สีคือสีดำ Black Sapphire สีดำCarbon Black สีขาว Mineral White สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe
ราคาจำหน่าย: 12,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
พบกับนิยามใหม่ของรถสปอร์ตคูเป้กับ บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ยนตรกรรมที่ผสานขุมพลังความสปอร์ตปราดเปรียวเหนือระดับและความหรูหราล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ การเปิดตัวสมาชิกรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 8 ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหม่แห่งความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูในเซกเมนต์รถสปอร์ต และยังถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดยานยนต์ระดับพรีเมียม
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ พร้อมอวดโฉมสุดโฉบเฉี่ยวด้วยแนวทางการดีไซน์รูปแบบใหม่อันทรงพลัง กับรูปทรงที่ลาดต่ำ เน้นย้ำถึงความแกร่งด้วยเส้นสายและโค้งเว้าอันสง่างาม ทั้งที่บริเวณกระโปรงหน้าและตลอดแนวตัวถัง เอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ของบีเอ็มดับเบิลยูมาในขนาดใหญ่ขึ้น ช่วงล่างของกระจังหน้ากว้างออกเพื่อเน้นย้ำถึงจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของตัวรถ ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ทั้งสองข้างช่วยเสริมสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ของตัวรถ คู่ไปกับสปอยเลอร์หน้าที่ทำหน้าที่ลดแรงยกบริเวณเพลาหน้า นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ยังมาพร้อมไฟหน้า LED ที่ติดตั้งระบบ BMW Laserlight ในรูปทรงที่เล็กเรียวกว่าไฟหน้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่นๆ โดยไฟหลักทั้งสองดวงนำมาใช้งานได้ทั้งสำหรับไฟขับขี่ในเวลากลางวัน (daytime driving lights) และการควบคุมไฟสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติด้วย High-beam assistant ให้ด้านหน้าของตัวรถมีรูปลักษณ์ที่คุ้นตาในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูในทุกช่วงเวลาของการขับขี่
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo V8 รุ่นพัฒนาใหม่ล่าสุด และความเร้าใจจากสมรรถนะที่เหนือระดับยิ่งขึ้นจากชุดแต่ง M Performance ล้วนกระตุ้นการสูบฉีดของอะดรีนาลีน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe โลดแล่นด้วยขุมพลังเบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงสร้างตัวถัง เทคโนโลยีการขับขี่ และระบบช่วงล่าง ได้รับการออกแบบมาเพื่อสมรรถนะการขับเคลื่อนชั้นเลิศ ที่พบได้เพียงจากรถสปอร์ตระดับแถวหน้าอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M8 และบีเอ็มดับเบิลยู M8 GTE ที่เป็นรถแข่ง Endurance เท่านั้น สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมการกระจายน้ำหนักอย่างสมมาตร พร้อมโครงสร้างตัวถังและระบบขับเคลื่อนทำจากวัสดุอะลูมิเนียม แมกนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาพิเศษ
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ยังมาพร้อมระบบ Driving Experience Control เพิ่มความสนุกสนานให้แก่การขับขี่ด้วยโหมด ADAPTIVE พร้อมรองรับการตั้งค่าขับขี่ในโหมด COMFORT และ ECO Proหรือโหมด SPORT และ SPORT+ ให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว หรือโลดแล่นในระยะไกลได้อย่างราบรื่น
และด้วยชุดแต่ง M Performance บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional สปอยเลอร์หลังแบบ M ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาลาย Y-spoke ขนาด 20 นิ้ว พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชั่น M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ เสริมลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งภายนอกสีดำเงา ภายในตกแต่งด้วยสแตนเลสสตีล และผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ รวมถึงไฟบริเวณขอบประตูที่ส่องสว่างด้วยเอกลักษณ์ชื่อรุ่น
ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe สง่างามด้วยการดีไซน์และคัดเลือกวัสดุคุณภาพ
พรีเมียมที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อความพึงพอใจของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การออกแบบแผงหน้าปัดตอกย้ำถึงการมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ ขณะที่ผลึกแก้วที่ตกแต่งบริเวณคันเกียร์พร้อมสัญลักษณ์เลข 8 ปุ่ม iDrive ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และปุ่มควบคุมเสียง ล้วนเสริมบรรยากาศความหรูหราอย่างลงตัว นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมเบาะหน้า-หลังแบบใหม่ในสไตล์สปอร์ต หุ้มด้วยหนังแท้ Merino พร้อมด้วยตำแหน่งของที่นั่งที่มีระดับต่ำลง จึงสามารถมอบความสะดวกสบายได้โดยปราศจากที่รองศีรษะ
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe นี้ ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไร้คนขับ ด้วยระบบ Parking Assistant Plus และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับรถและคนเดินถนนด้วยความเร็วต่ำ (Person Warning with City Braking Function) ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชนด้านหลัง (Rear-collision prevention) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Blind spot detection) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (Crossing-traffic warning rear) และระบบเตือนป้ายจราจร (Speed limit info and no-overtaking indicator) ซึ่งรถยนต์สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ยังแสดงผลด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ และหน้าจอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึง BMW Head-Up Display เวอร์ชั่นล่าสุด ฉายภาพขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 16% ในรูปแบบสามมิติ
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดจาก BMW ConnectedDrive ระบบ iDrive ใหม่ล่าสุด และ BMW Gesture Control ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport
ราคาจำหน่าย: 6,139,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 เจเนอเรชั่นที่ 6 นับเป็นที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 เท่าที่เคยผลิตมา และเป็นมาตรฐานใหม่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในเซ็กเมนต์นี้ ที่มาพร้อมสมรรถนะและประสิทธิภาพใหม่แห่งการขับขี่ นับเป็นครั้งแรกที่คอนเซ็ปต์ Carbon Core นำมาใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โดยได้นำหลักการของคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 มาใช้กับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 นี้ การผสมผสานที่ก้าวล้ำของการใช้วัสดุต่างๆ ทำให้ยานยนต์รุ่นนี้ทรงพลังสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุด แต่ยังคงความเป็นรถซีดานที่หรูหราและทรงประสิทธิภาพที่สุดด้วยเช่นกัน
รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้าและรูปลักษณ์ดึงดูดสะกดทุกสายตา
เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport เป็นรุ่นฐานล้อยาว มีขนาดความยาวของตัวรถ 5,238 มิลลิเมตร กว้าง 1,902 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร เป็นรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ฟีเจอร์ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อระบบต้องการระบายความร้อนโดยนอกจากจะพัฒนาสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ให้กับรถแล้ว ยังเพิ่มความสะดุดตาให้กับส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่บีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้น ไฟหน้ายังได้รับการออกแบบขยายไปจนถึงขอบไต ในขณะที่ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลถูกจัดวางอย่างพอดี ช่วยทั้งการใช้งานและดึงดูดสายตา
BMW EfficientLightweight: โครงสร้างแบบ Carbon Core ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม
เทคโนโลยี BMW Efficient Lightweight ช่วยลดน้ำหนักรวมของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 นี้ได้สูงสุดถึง 130 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ผลิตด้วย Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซ็กเมนต์นี้ที่ใช้โครงสร้างผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP) ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็กและอะลูมิเนียม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้อย่างมาก
สมรรถนะและความสะดวกสบายของการขับขี่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งานในทุกสภาพด้วยมาตรฐานสูงสุด เทคโนโลยีช่วงล่างช่วยยกระดับสมรรถนะและคุณภาพในการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport ด้วยช่วงล่างแบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลังและระบบควบคุมความนุ่มนวลของโช้กอัพ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้มอบอิสระแห่งการขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้งานโหมดที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใน Sport Mode หรือ Eco Pro Mode เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ หรือเลือกใช้ ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิทซ์ควบคุมแบบใหม่ การตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการขับขี่และประเภทของเส้นทาง
การสั่งการด้วยระบบสัมผัสและการเคลื่อนไหวมือ
ในบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport ใช้หน้าจอควบคุม iDrive ในระบบสัมผัส ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control ซึ่งเซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่าย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น
บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์: เชื่อมต่อรถกับโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์
นวัตกรรมของระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่นซึ่งใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport มาในรูปแบบของ บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) หรือควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งานได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอ รวมถึงใช้เป็นเกมส์คอนโซลได้อีกด้วย
สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับแห่งการโดยสารด้วย Ambient Light หลังคากระจกแบบ Panorama และไฟ Welcome Light Carpet ด้วยบรรยากาศที่หรูหราภายในบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport ที่ได้รับการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถประหนึ่งการปูพรมต้อนรับ อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษที่มาพร้อมกันคือ ไฟ Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหรูหราให้กับห้องโดยสาร
ช่วงล่างแบบถุงลมและระบบควบคุมความนุ่มของโช้กอัพที่มาในรุ่นมาตรฐาน
ด้วยช่วงล่างระบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลัง และระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport มาพร้อมกับทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างความแม่นยำ การเคลื่อนไหวในการขับขี่อย่างมั่นคงและ สอดประสานอย่างกลมกลืน ช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้ แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม และเนื่องจากในแต่ละล้อมีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนักในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากันก็ตาม นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับการควบคุมระดับนี้ได้ด้วยตนเองทั้งในระหว่างการขับขี่บนท้องถนน หรือแม้แต่การขับในพื้นที่ต่างระดับ เช่น ในอาคารจอดรถที่มีความลาดชัน การปรับระดับจะกลับสู่ค่ามาตรฐานโดยอัตโนมัติที่ความเร็ว 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่ออยู่ในโหมด SPORT และใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ ระบบจะปรับระดับความสูงของตัวรถลงมา 10 มิลลิเมตรโดยอัตโนมัติ
เครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบแถวเรียง รุ่นใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยปริมาตรกระบอกสูบขนาด 3 ลิตร ซึ่งใช้เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่งความเร็วจากศูนย์ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.2 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 18.2 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 146 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld sDrive M Sport สามารถเลือกปรับโหมดการขับรถได้หลายแบบตามต้องการ ทั้งโหมด SPORT, SPORT+, ECO PRO, COMFORT และ COMFORT+ พร้อมหน้าจอมัลติฟังก์ชั่นและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ซึ่งรวมถึงระบบเครื่องเสียงที่ทำงานร่วมกับ iDrive ตอบรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่เพื่อสุนทรียะแห่งการเดินทาง และมีชุดแต่ง M Sport ซึ่งประกอบด้วย ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วแบบ Double-spoke และดีไซน์ภายนอกด้วยเส้นสาย High-Gloss Shadow Line ในแบบของบีเอ็มดับเบิลยู และชุดแต่ง M aerodynamics
Platino Motomobile
หากมีข้อมูลสอบถามสามารถติดต่อได้ที่ พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม โทร.034-275-324-6 หรือติดตามความเคลื่อนไหว ได้ทีhttps://www.facebook.com/BMWPlatinoMotor/
เกี่ยวกับบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม
บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พลาติโน มอเตอร์ นครปฐม ผู้จัดจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู อย่างเป็นทางการและศูนย์บริการมาตรฐาน ครบวงจร ตั้งอยู่ในภาคตะวันตก เส้นทางจังหวัดนครปฐม-ราชบุรี บนเนื้อที่ 4,000 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยพื้นที่จัดแสดง ทั้งรถยนต์ใหม่ ( New Car ) และ กลุ่มรถยนต์ผู้บริหาร ( Executive Car ) และ ยินดีบริการด้วยทีมงานที่ผ่านการอบรมจาก บีเอ็มดับเบิลยู ไทยแลนด์