‘Maserati MC20’ เจ้าของรางวัลซูเปอร์คาร์สวยที่สุดแห่งปี 2021 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครั้งแรกในอาเซียน

 ‘Maserati MC20’ เจ้าของรางวัลซูเปอร์คาร์สวยที่สุดแห่งปี 2021 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทไทยครั้งแรกในอาเซียน

มาเซราติ ประเทศไทย พร้อมนำลูกค้าและผู้ที่สนใจ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับ ‘MC20’ ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด ที่หลอมรวมความหรูหรา ความสปอร์ต และสมรรถนะอันเหนือชั้น ตามแบบฉบับของยนตรกรรมจากค่ายตรีศูล อีกทั้งยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่ผลิตในอิตาลี 100%

MC20 นับเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ มาเซราติ
ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด ต่อยอดจากรุ่น MC12
เปี่ยมด้วยดีเอ็นเอของรถแข่ง
ผลิตจากโรงงานในเมืองโมเดนา ประเทศอิตาลี 100%
เจ้าของรางวัล ‘Most beautiful supercar of the year 2021’ และ ‘Super Sports Car of the Year’

ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า “MC20 เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ มาเซราติ ที่สะท้อนตัวตนและประวัติศาสตร์บนสนามแข่งได้เป็นอย่างดี ล่าสุดสามารถคว้ารางวัล ซูเปอร์คาร์สวยที่สุดแห่งปี 2021 ‘Most beautiful supercar of the year 2021’ในงาน Festival Automobile International กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ยอดเยี่ยม ‘Super Sports Car of the Year’ แห่งปี 2021 ในงาน GQ Car Awards 2021 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

โปรเจกต์นี้ไดให้กำเนิดซูเปอร์คาร์ที่เป็นแบบอย่างแห่งความยอดเยี่ยมในสไตล์อิตาเลียนโดย MC20 ผ่านการออกแบที่เมืองโมเดนา และจะผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menotti ที่ผลิตรถยนต์ มาเซราติ มาอย่างต่อเนื่องกว่า 80 ปี บนสายพานการผลิตที่สร้างขึ้นใหม่ แทนที่ของเดิมที่เคยใช้ผลิตรุ่น กรันทูริสโม (GranTurismo) และ กรันคาบริโอ (GranCabrio) ที่สิ้นสุดลง ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รวมถึงมีห้องพ่นสีใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่เครื่องยนต์ Nettuno จะถูกประกอบขึ้นภายใน Maserati Engine Lab ที่เมืองโมเดนา

++ เส้นสายพลิ้วไหว ใส่ใจทุกรายละเอียด

อักษร MC ย่อจาก Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 มาจากปีที่เปิดตัว (2020) รูปลักษณ์ของ MC20 ใช้เวลาในการรังสรรค์ประมาณ 2 ปี ด้วยความร่วมมือตั้งแต่ต้นของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก Maserati Engine Lab และบรรดานักออกแบบจาก Maserati Style Centre รูปลักษณ์ของ MC20 ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตน และประวัติศาสตร์ของแบรนด์ หลอมรวมความงามสง่า สมรรถนะ และความสะดวกสบาย ได้อย่างลงตัว การให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ก็ส่งผลให้รถมีบุคลิกโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ขณะที่ประตูเปิดขึ้นแบบปีกผีเสื้อ ไม่เพียงงดงาม แต่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่น สามารถเข้าออกได้สะดวก

ระบบอากาศพลศาสตร์ผ่านการออกแบบและปรับแต่งในอุโมงค์ลมที่ Dallara Wind Tunnel โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2,000 ชั่วโมง และการทดสอบ CFD (Computational Fluid Dynamics) กว่า 1,000 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าประทับใจดุจงานศิลป์ เส้นสายตัวดูเรียบง่ายสะอาดตา โดยมีเพียงสปอยเลอร์หลังขนาดพอเหมาะ ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความงดงาม มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่า 0.38

ตัวถังมี 6 สีพิเศษที่ผลิตขึ้นสำหรับ MC20 โดยเฉพาะ คือ ขาว Bianco Audace, เหลือง GialloGenio, แดง Rosso Vincente, น้ำเงิน Blu Infinito, ดำ Nero Enigma และ เทา Grigio Misteroามารถสะท้อนจุดเด่นที่สำคัญของรถได้เป็นอย่างดี อาทิ การเป็นยนตรกรรมที่ผลิตในอิตาลี, บุคลิกสไตล์อิตาเลียน และความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของ มาเซราติ MC20 ผ่านการออกแบบให้รองรับทั้งตัวถังคูเป้, เปิดประทุน และเวอร์ชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน

++ ขุมพลังยุคใหม่ ใส่เทคโนโลยีเอฟวัน

Nettuno นับเป็นขุมพลังบล็อกแรกของยุคใหม่แห่งค่ายตรีศูล เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 630 แรงม้า (HP) แรงบิด 730 นิวตันเมตร ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นจนได้รับสิทธิบัตรจากสถาบันนานาชาติ เรียกว่า MTC (Maserati Twin Combustion) ซึ่งเป็นระบบสันดาปภายในอันล้ำสมัย ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดย มาเซราติ จุดเด่นของเครื่องยนต์บล็อกนี้คือ ระบบเผาไหม้ช่วยเหลือ เรียกว่า (Pre-chamber Combustion System) พัฒนาจากเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลาวัน และนำมาใช้กับเครื่องยนต์ของซูเปอร์คาร์เป็นครั้งแรก ระบบห้องเผาไหม้ช่วยเหลือจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดในเครื่องยนต์ เพื่อรีดแรงม้าได้อย่างเต็มกำลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชมและนับเป็นเครื่องยนต์ที่ มาเซราติ ผลิตขึ้นด้วยตนเองอีกครั้ง หลังจากหยุดไปนาน 20 ปี

การใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่งผลให้รถมีน้ำหนักพิกัดที่ต่ำกว่า 1,500 กก. นับว่าเบามากขณะที่เครื่องยนต์ทรงพลัง 630 แรงม้า ก็ส่งผลให้รถคันนี้ มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ที่ 2.33 กก./แรงม้า ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ความได้เปรียบด้านน้ำหนักเกิดจากการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบาย

++ ผู้ขับคือ ศูนย์กลางแห่งการควบคุม

เมื่ออยู่ในห้องโดยสาร ผู้ขับก็เป็นเสมือนจุดศูนย์กลาง โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวนประสบการณ์ขับแบบสปอร์ต อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการออกแบบและติดตั้งอย่างมีจุดประสงค์ เน้นดีไซน์เรียบง่าย ไร้สันคม เพื่อไม่ให้รบกวนสมาธิผู้ขับ ติดตั้งจออเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณเรือนไมล์ และอีกตัวบริเวณกลางแดชบอร์ดสำหรับระบบ Maserati Touch Control Plus (MTC Plus MIA) ขณะที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ก็ดูเรียบง่าย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็น อาทิ จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ปุ่มปรับ 5 โหมดการขับ (GT, Wet, Sport, Corsa และ ESC Off ที่ตัดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ), 2 ปุ่มเลือกความเร็วในการขับ, ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า และปุ่มควบคุม Multimedia System รวมถึงมีช่องเก็บของบริเวณใต้ที่พักแขน ส่วนปุ่มควบคุมอื่นๆ ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย ขนาบข้างด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทางซ้าย และปุ่ม launch control ทางขวา

ทั้งแนวคิดและรูปลักษณ์ของ MC20 ชวนให้นึกถึงรุ่น MC12 ที่นำพา มาเซราติ กลับสู่สนามแข่งในปี 2004 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และก็เช่นเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง MC12 เจ้า MC20 ก็เปี่ยมด้วย ดีเอ็นเอจากรถแข่ง เสมือนเป็นการประกาศถึงความตั้งใจในการคืนสู่สังเวียนการแข่ง ขณะที่ระบบ Virtual Vehicle Dynamics Development เป็นการทดสอบบนหนึ่งในซิมูเลเตอร์ที่ทันสมัยสุดในโลก ผลิตโดย Maserati Innovation Lab บนพื้นฐานของแท่นทดสอบอันซับซ้อนเรียกว่า ‘Virtual Car’ วิธีนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนารถยนต์กว่า 97% จากนั้นจึงนำรถต้นแบบไปปรับแต่งอย่างละเอียด ด้วยการวิ่งทดสอบบนถนนและสนามแข่ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ซึ่งเป็นแบบฉบับหรือวัฒนธรรมที่ยึดถือต่อเนื่องมายาวนาน

พบกับ มาเซราติ MC20 ครั้งแรกในอาเซียน วันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ที่บูท มาเซราติ (A5) ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี

 

มาเซราติ MC20 ราคาเริ่มต้น 21.5 ล้านบาท

 

รับชมการเปิดตัวย้อนหลังได้ที่ https://houseof.maserati.com/ หรือ https://www.youtube.com/watch?v=FMQ0EmIc_4k

 

เกี่ยวกับ มาเซราติ เอส.พี.เอ.

มาเซราติ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และบุคลิกโดดเด่น เพียงได้เห็นก็ทราบทันทีว่าเป็น มาเซราติ ทุกรุ่นล้วนสะท้อนตัวตนของยนตรกรรมอิตาเลียนออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านการดีไซน์, สมรรถนะ, ความสะดวกสบาย, ความหรูหรา และความปลอดภัย ปัจจุบันมีจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก นำโดยซีดานสุดหรู ควอตโตรปอร์เต้, สปอร์ตซีดาน กิบลี่ ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชั่นไฮบริด และเอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ เลอวานเต้ ขณะที่ขุมพลังก็มีให้เลือกครบครัน ทั้งเบนซิน วี8 สูบ, วี6 สูบ, 4 สูบ ไฮบริด และดีเซล วี6 สูบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 หรือ 4 ล้อ นอกจากนั้นก็มียนตรกรรมรุ่นพิเศษ Trofeo Collection’ คือ ควอตโตรปอร์เต้, กิบลี่ และ เลอวานเต้ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 580 แรงม้า ปิดท้ายด้วยซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด MC20 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ Nettuno ผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลาวัน ปัจจุบันรถยนต์ มาเซราติ ผลิตขึ้นในโรงงาน 3 แห่ง โดยรุ่น ควอตโตรปอร์เต้ และ กิบลี่ ผลิตที่โรงงาน Avvocato Giovanni Agnelli Plant ที่เมืองตูริน, เลอวานเต้ ผลิตที่ Mirafiori Plant เมืองตูริน และซูเปอร์คาร์รุ่น MC20 ผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menottiเมืองโมเดนา

 

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: มาเซราติ ประเทศไทย

โชว์รูมสุขุมวิท 26 โทร. 02-663-2233

โชว์รูมสยามพารากอน โทร. 02-610-9441

โชว์รูมไอคอนสยาม 02-117-4666

เว็บไซต์: http://Thailand.Maserati.com/

เฟสบุ๊ค: Maserati Thailand

อินสตาแกรม: Maserati Thailand

 

TECHNICAL SPECIFICATIONS

Engine

Layout

V6 90° MTC Twin Turbo

Displacement (cc)

3000 (cc) or 3.0L

Bore x stroke (mm)

88 x 82

Compression ratio

11:1

Max. power output (hp @ rpm)

630 HP @7500 rpm

Peak torque (Nm @ rpm)

730 Nm @3000-5500 rpm

Ignition system

MTC (Maserati twin combustion) Twin spark with passive pre chamber

Fuel System

PDI (Direct Injection 350 bar + Port Injection 6 bar)

Induction

Twin Side Turbo with electronic actuated Waste Gate

Lubrication

Fully variable Oil pump on Dry sump system with scavenge pumps & external oil tank

Timing system

Double Over Head Camshaft with variable valve timing

PERFORMANCE

0-100 km/h (s)

Less than 2.9 sec

0-200 Km/h (s)

Less than 8.8 sec

Top speed (km/h)

More than 325 km/h

Braking distance:

From 100 to 0 km/h (m)

Less than 33 metres

CX

Less than 0.38

FUEL CONSUMPTION AND CO2 EMISSIONS

WLTP combined cycle (l/100 km)

On going homologation

Gear ratios:

On going homologation

Transmission

Rear-wheel drive with rear limited slip self-locking mechanical differential (Electronic differential opt)

SUSPENSION

Front

Double-wishbone with virtual steering axle, anti-roll bar (Lifter opt)

Rear

Double-wishbone with virtual steering axle, anti-roll bar

BRAKES

Front

Ventilated discs 380×34 mm (CCM disc 390×36 opt) Brembo fixed calipers 6 pistons

Rear

Ventilated discs 350×27 mm (CCM disc 360×28 opt) 4 pistons

DIMENSIONS AND WEIGHTS

Front/rear tyres

front 245/35 ZR 20 / rear 305/30 ZR 20

L x D x H (mm)

4,669 x 1,965 x 1,224

Wheelbase (m)

2.7

Front/rear track (mm)

1,681 / 1,649

Luggage capacity (l)

148 (47 front / 101 rear)

Fuel tank capacity (l)

60

Homologated weight

Less than 1,500 kg